สารสกัดจาก“ส้มซัทสึมะ” (SATSUMA ORANGE)

“ส้มซัทสึมะ” (SATSUMA ORANGE)

“ราชินีแห่งผลไม้” มีต้นกำเนิดจากแดนอาทิตย์อุทัย หรือประเทศญี่ปุ่น

ส้มซัทสึมะ เป็นส้มพื้นเมืองที่มีแหล่งกำเนิดในเขตคาโกชิมะ (Kagoshima) จังหวัดซัทสึมะ(Satsuma) ตั้งอยู่ตอนใต้ของเกาะประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นผลไม้คู่บ้านคู่เมืองและสมุนไพรโบราณญี่ปุ่น มายาวนานกว่า 700 ปี ซึ่งคนในจังหวัดนี้ ทั้งหนุ่มสาวจนถึงวัยชราทุกคนมีสุขภาพผิวที่ดีและอายุยืน เพราะทานส้มซัทสึมะ เป็นประจำ

โดยคนญี่ปุ่นนิยมนำส้มซัทสึมะมาทานเป็นผลไม้สด และยังใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับทำอาหาร หรือเป็นส่วนประกอบของยาสมุนไพรท้องถิ่น ปัจจุบันนี้ ส้มซัทสึมะเป็นที่รู้จักไปเกือบทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศเมืองหนาว ทั้งทวีปเอเชีย อเมริกาและยุโรป เช่น ประเทศเกาหลี จีน อเมริกา เป็นต้น จึงเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่า ถ้ารับประทานส้มซัทสึมะเป็นประจำนั้น จะทำให้สุขภาพผิวดีและสุขภาพดี

จากคุณประโยชน์น่าอัศจรรย์ของ “ส้มซัทสึมะ” จึงเป็นที่สนใจของนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก โดยมีนักวิจัยแล้วว่าส้มซัทสึมะมีสารประกอบสำคัญ นั่นก็คือ เบต้า-คริปโตแซนทิน (β-Cryptoxanthin, Beta Cryptoxanthin) ซึ่งจำเป็นต่อร่างกาย

เบต้า-คริปโตแซนทิน (β-Cryptoxanthin) เป็นสารที่อยู่ในกลุ่ม แคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ซึ่งพบได้ในร่างกาย เป็นทั้งโปรวิตามินเอ (Provitamin A) และสารต้านอนุมูลอิสระ

โดยส้มซัทสึมะมีปริมาณของเบต้า-คริปโตแซนทินสูงที่สุดในตระกูลส้มด้วยกัน จึงช่วยเพิ่มระดับของเบต้า-คริปโตแซนทินให้เหมาะสมและช่วยให้สุขภาพผิวดี เนียนใส ไร้จุดด่างดำ

นอกจากนี้ ยังมีสารประกอบสำคัญหลายชนิด ได้แก่ สารไฟโตนิวเทรียนต์ สารกลุ่มฟลาวาโนนส์ สารแอนโธไชยานินส์ สารโพลีฟีนอลส์และวิตามินซีสูง ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิวและสุขภาพ

“ส้มซัทสึมะ” มีคุณสมบัติพิเศษ ดังนี้

1. ฟื้นฟูผิว
ช่วยฟื้นฟูผิวบาง แก้ปัญหาผิวติดสาร ทำให้ผิวแข็งแรง
จากการทดลองในห้องปฏิบัติการ ผู้ที่มีภาวะผิวบางจากการใช้ไวท์เทนนิ่งเป็นระยะเวลานาน เมื่อทานส้มซัทสึมะติดต่อกัน เป็นเวลา 8-12 สัปดาห์ ผิวจะกลับมาหนาเหมือนเดิม สุขภาพผิวแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อได้ทดลองเพิ่มเติม โดยนำผู้ที่ถูกทดลองมาอาบรังสียูวี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ทานส้มซัทสึมะและกลุ่มที่ไม่ได้ทานส้มซัทสึมะ เวลา 8 สัปดาห์ แล้วนำผู้ถูกทดลองมาส่องดูผิวด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ แทบไม่มี “ฝ้า” ขึ้นเลย ส่วนผู้ที่ไม่ได้ทานส้มซัทสึมะ มี “ฝ้า” เห็นได้ชัด

สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวติดสาร ส้มซัทสึมะยังช่วยฟื้นฟูผิวและขับพิษออกจากผิวหน้าได้อีกด้วย ดังนั้น การทานส้มซัทสึมะเป็นประจำ จะช่วยทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรง แก้ปัญหาผิวบางจากการเร่งการผลัดผิวได้

2. แก้ฝ้าหนัก
สำหรับผู้มีปัญหาฝ้า หน้าพังจากเลเซอร์ ฝ้าเลือด ฝ้าสารเคมี ฝ้าลามจากครีม ส้มซัทสึมะจะช่วยฟื้นฟูผิว แก้หน้าพังได้ จากการทดลองในผู้หญิงญี่ปุ่นวัย 40 ปี โดยได้รับสารสกัดจากส้มซัทสึมะที่มีสารประกอบ เบต้า-คริปโตแซนทิน (β-Cryptoxanthin) อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 4-8 สัปดาห์ พบว่า จุดด่างดำ ฝ้า กระ ลดลง จางลง สีผิวสม่ำเสมอและสุขภาพผิวดีขึ้น แล้วยังสามารถฟื้นฟูกระดูก เพิ่มมวลกระดูก ป้องกันกระดูกพรุน (Osteoporosis)

จากการทดลองโดยนำคนที่มีปัญหาอาการกระดูกพรุน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ทานส้มซัทสึมะและกลุ่มที่ไม่ได้ทานส้มซัทสึมะ โดยทดลองเป็นระยะเวลานาน 12 สัปดาห์ และวัดมวลกระดูกทุกๆ สัปดาห์ ปรากฏว่า กลุ่มที่ทานส้มซัทสึมะ มวลกระดูกเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 4 เป็นต้นไป

หลักการทำงานคือ ซัทสึมะ จะไปยับยั้งเซลล์ทำลายกระดูก (Osteoclast) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคกระดูกพรุน และไปกระตุ้นเซลล์สร้างกระดูก (Osteoblast) ให้ทำงานได้ดีขึ้น จึงทำให้มวลกระดูกเพิ่มขึ้น

3. ฟื้นฟูตับ ลดไขมันพอกตับ
ส้มซัทสึมะ มีหลายงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องการบำรุงตับและลดไขมันพอกตับ ตัวอย่างงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยคานาซาวะ ประเทศญี่ปุ่น พบว่าส้มซัทสึมะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไขมันพอกตับ (NASH) 3 ส่วน ดังนี้

  • ลดการเกิด Lipid Peroxidation
    ช่วยลดการเกิดปฏิกิริยาของไขมันต่อตับลง (Lipid Accumulation) ลดการอักเสบของตับ ทำให้ตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ลดการเกิด Kupffer Cell Activation
    ช่วยลดการทำงานของ M1 Macroplage เกี่ยวกับการกระตุ้นการอักเสบที่มีผลทำให้เซลล์ตับเสื่อมสภาพ และกระตุ้นการทำงานของ M2 Macroplage ซึ่งช่วยฟื้นฟูตับ ทำให้ตับแข็งแรง
  • ลดการเกิด Insulin Resistance
    ทำให้ตับอ่อนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำให้เซลล์ร่างกายตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งช่วยลดและป้องกันโรคเบาหวานได้

4. ลดไขมันในเลือดและลดคอเลสเตอรอล
จากงานวิจัยของหน่วยงาน Nihon Shokunin ภายใต้สมาคมวิทยาศาสตร์และอาหารแห่งชาติญี่ปุ่น ได้คัดเลือกคนอ้วนที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง 26 คน โดยเลือกน้ำหนักและอายุใกล้เคียงกัน แล้วแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ 1 จำนวน 13 คน ให้ใช้ชีวิตตามปกติ
ผลทดลองคือ ผู้ที่ทานส้มซัทสึมะ มีผลตรวจค่าไขมันในเลือดลดลง ทั้งคอเลสเตอรอล และ LDL
กลุ่มที่ 2 จำนวน 13 คน ให้กินส้มซัทสึมะ เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์
ผลทดลองคือ ผู้ที่ทานส้มซัทสึมะ มีผลตรวจค่าไขมันในเลือดลดลง ทั้งคอเลสเตอรอล และ LDL

ด้วยคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้ จึงมีนักวิจัยทำการทดลองพัฒนามาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อความงามจากสารสกัดส้มซัทสึมะ เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้ผิวพรรณกระจ่างใส ลดรอยจุดด่างดำ ผลัดเซลล์ผิวเก่าเผยผิวใหม่ที่สดใสกว่า ปกป้องผิวจากแสงยูวีจากแสงแดดและช่วยยับยั้งการเกิดเม็ดสีเมลานินไม่ให้เกิดฝ้ากระบนหน้า